แม้ว่าคนพิการจะอยู่ทุกกลุ่มประชากรทั่วโลกแต่เรื่องราวของคนพิการก็ได้รับความสนใจน้อยมาก
ซึ่งยุคแรกๆนั้นการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการมีรูปแบบที่ไม่แตกต่างกันมากนัก
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการช่วยเหลือต่างๆ เช่น คนยากจน เด็กกำพร้า คนป่วย คนหูหนวก
ตาบอด และเมื่อมีการปรับปรุงกฎหมายในระยะต่อๆมาก็เริ่มให้การสงเคราะห์เป็นเงินประกัน
เบี้ยยังชีพ เป็นต้น ส่วนในสหรัฐอเมริกาจุดเริ่มต้นของการสงเคราะห์คน
เริ่มจากการตั้งโรงทานซึ่งจากการได้รับเอกราชจากอังกฤษก็ทำให้ประเทศมีการพัฒนาขึ้น
ทำให้เกิดการช่วยเหลือต่างๆมีการตั้งสถานสงเคราะห์หลายแห่ง เช่น
มีสถานสงเคราะห์คนหูหนวก เป็นใบ้ สถานสงเคราะห์คนตาบอด เป็นต้น
การพัฒนาประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม
ให้ใช้ยวดยานพาหนะที่ทันสมัยและมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
ทำให้คนพิการมีจำนวนมากขึ้น ในขณะที่ทางทัศนคติทางสังคมที่มีต่อคนพิการมีแต่ทางลบ
ประเทศต่างๆจึงได้ร่วมกันจัดตั้งองค์กรฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการระหว่างประเทศ
องค์กรสหประชาชาติได้ตระหนักว่าบุคคลที่มีความพิการส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา
ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆและการตอบสนองผู้พิการมีมากขึ้น ดังนั้น
เพื่อเป็นการแก้ไข้ปัญหาองค์กรสหประชาชาติจึงเข้ามามีบทบาทต่อคนพิการในด้านการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการของคนพิการ
เพื่อเป็นส่งเสริมความเสมอภาคกันอย่างสมบูรณ์แบบ
รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนพิการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองภายในประเทศ
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และความเท่าเทียมของมนุษย์
ในปี ค.ศ. 1971
สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศปฏิญาณวาด้วยสิทธิคนพิการได้กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติต่อคนพิการอย่างเท่าเทียมในสังคม
รวมทั้งการสู่บริการต่างๆ และปี ค.ศ. 1977
สหประชาชาติได้จัดตั้งกองทุนภาคสมัครใจเพื่อคนพิการซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ
ความตระหนักเพิ่มของนานาประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิคนพิการจำเป็นรูปแบบหนึ่งของสิทธิมนุษยชนนำไปสู่การประกาศปีสากลและในปี
พ.ศ. 1982
สมัชชาหมู่องค์การสหประชาชาติได้รับเอาก่อนนโยบายการส่งเสริมของคนพิการมาปฏิบัติโดยเรียกร้องให้จัดตั้งการร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมกัน
การมีส่วนร่วมสมบูรณ์ในชีวิตทางสังคมและการพัฒนาคนพิการ
ทั้งนี้สมาชิกได้ลงมติรับรองแผนปฏิบัติระดับโลกว่าด้วยคนพิการซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกนำไปปฏิบัติในการส่งเสริมสิทธิคนพิการรวมทั้งเชิญชวนให้ประเทศซึ่งยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับคนพิการให้ได้เริ่มมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการสิทธิคนพิการเพื่อให้คนพิการสามารถพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นและใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไป
ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 1992 องค์กรสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 3
ธันวาคมของทุกปีเป็นวันคนพิการสากลเพื่อนึกถึงวันครบรอบที่สมัชชาใหญ่องค์กรสหประชาชาติมีมติแผนรับรองปฏิบัติการระดับโลกว่าด้วยคนพิการโดยมีวัตถุประสงค์การมีส่วนร่วมอย่างสมบูรณ์และอย่างมีประสิทธิภาพของกลุ่มคนพิการในด้านการใช้ชีวิตในสังคมและการพัฒนาด้านต่างๆเพื่อเพิ่มสิทธิและศักดิ์ศรีคนพิการ
นอกจากคนพิการจะได้รับการส่งเสริมด้านโอกาสและสิทธิในการมีส่วนร่วมในสังคมไม่ว่าจะเป็นการศึกษา
การจ้างงาน การได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆแล้ว
คนพิการทั่วโลกยังได้รับโอกาสและสิทธิในการมีส่วนร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการระดับสากลที่เรียกว่า
" Paralimpic Games"
ความเป็นมาของพาราลิมปิกเกมส์นั้นเริ่มต้นจากแนวคิดของ Sir Ludwig Guttman ซึ่งเป็นศัลยกรรมแพทย์ที่ใช้กีฬาเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพของทหารที่บาดเจ็บของสงครามโลกครั้งที่
2 โดยมีการจัดการแข่งขันขั้นระหว่างทีมคนพิการจากสถานสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในระหว่างพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกครั้งที่
14 ซึ่งประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพและในปี 1960 ได้มีการจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการของกีฬาพาราลิมปิกของประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น