ประวัติกีฬาโกลบอล
โกลบอล (Goalball) เป็นกีฬาสำหรับคนพิการทางตา
ตาบอด เริ่มมีมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกแบบและคิดค้นโดย Hanz
Lorenzen ชาวออสเตรียและ Reindle ชาวเยอรมนี ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับความพิการริเริ่มขึ้น
กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬายอดนิยมที่เล่นกันในกลุ่มคนตาบอด มีการจัดการแข่งขันทั้งในประเทศ
ระดับนานาชาติ และถูกบรรจุเป็นกีฬาสาธิตครั้งแรกในพาราลิมปิก มอนทรีล แคนาดา ในปี 1976
เป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมของคนตาบอด กีฬาโกลบอล มีขนาดของสนามกว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร ประตูกว้าง 9 เมตร และสูง 1.30 เมตร การแข่งขันจะมี ระยะเวลา 20
นาที
ประเภทการแข่งขัน
แบ่งออกเป็นประเภททีมชายและประเภททีมหญิง
โดยมีนักกีฬาที่มีความพิการทางตา กลุ่ม B1 B2 B3 ตามมาตรฐานของสมาคมกีฬาคนตาบอดนานาชาติ
(IBSA) ที่ไดกําหนดไว้
รูปแบบของทีม
§ ผู้เล่นจริง
3 คน สำรอง 3 คน
§ ผู้ดูแลนักกีฬา 3 คน รวมทั้งหมด 9 คน
§ ผู้ตัดสินต้องแจ้งผลการเสี่ยงของแต่ละทีมและผู้เล่นสำรองไม่อยู่ในการแข่งขัน
ผู้เล่นต้องใส่เสื้อที่กำหนดโดยคณะกรรมการโกลบอล
§
ผู้เล่นที่ถูกไล่ออกจากสนามจะถูกตัดชื่อออกจากใบรายชื่อ
สนามการแข่งขัน
§ กว้าง
9
เมตร ยาว 18 เมตร วัดจากด้านนอกของเส้นและแบ่งตามความยาวของสนามเป็นส่วน
ๆ ละ 3 เมตร ได้ 6 ส่วน
§ เขตผู้เล่นอยู่ข้างหน้าเส้นประตูของแต่ละด้าน
§ เขตลูกตก
อยู่ข้างหน้าพื้นที่เขตผู้เล่น
§ เขตแดนกลาง
6
เมตร แบ่งโดยเส้นกลางสนาม
§ เส้นสนามทุกเส้นกว้าง
5
ซม.และมีเส้นเชือกขนาด 3 มม.
§ อยู่ใต้เทปตรงกลาง
§ เส้นทุกเส้นมีเส้นเชือกหมด
ยกเว้นเส้น Line out และ Goal Line
§
พื้นสนาม
รับรองโดยคณะอนุกรรมการโกลบอล (IBSA)
ลูกบอล
- เส้นผ่าศูนย์กลาง 24 – 25 ซม.
- เส้นรอบวง 75.5 – 78.5 ซม.
- น้ำหนัก 1250 กรัม
- รู ข้างบน มี 4 รู ข้างล่าง มี 4 รู
- ลูกกระพรวน มี 2 ลูก
![]() |
| ภาพของลูกโกลบอล |
ช่วงก่อนเริ่มการแข่งขัน
การอบอุ่นร่างกาย
ผู้เล่นต้องทำการอบอุ่นร่างกายอยู่ในเขตของตนเอง
ไม่อนุญาตให้ลูกบอลผ่านไปยังฝ่ายคู่ต่อสู้ ถ้ามีการฝ่าฝืน ครั้งแรกเตือน
ครั้งที่สองทำโทษ (Team Penalty)
![]() |
| ภาพการอบอุ่นร่างกายก่อนที่จะทำการฝึกซ้อมกีฬาโกลบอล |
ระยะเวลาในการแข่งขัน
แบ่งการแข่งขันเป็น 2 ครึ่ง ๆ ละ 12 นาที รวม
24 นาที หมดเวลาแข่งขันพักอย่างน้อย 5 นาที แต่ถ้าในพาราลิมปิกหรือระดับนานาชาติใช้เวลา
15 นาที มีสัญญาณเตือน 5 นาที
ก่อนเริ่มการแข่งขันปิดผ้าปิดตาให้เรียบร้อยก่อนการแข่งขัน 90 วินาที ก่อนเริ่มการแข่งขัน มีสัญญาณเตือนก่อน 30 วินาที และพักระหว่างครึ่ง 3 นาที ทั้ง 2 ทีมต้องพร้อมที่จะทำการแข่งขันหลังจากสัญญาณเตือน 30 วินาที ถ้าไม่ปฏิบัติตาม (Team or Personal Penalty Delay of
Game) แต่ละครึ่งจะพิจารณาจบลงเมื่อหมดเวลาการแข่งขัน
ช่วงเริ่มในการแข่งขัน
§ ผู้ตัดสินขาด
“Center” ฝ่ายที่ได้เริ่มเล่นก่อน และเป่านกหวีด 3 ครั้ง แล้วพูดว่า “Play”
§ เวลากลางเริ่มต้น
§ เมื่อหมดเวลาครึ่งแรกผู้ตัดสินเป่านกหวีดขาน
“Half
time” or “game”
ผู้ตัดสินดูผู้เล่นด้วยว่าสัมผัสผ้าปิดตาก่อนหมดเวลาหรือหลังหมดเวลา ถ้าสัมผัส (Personal
Penalty – Eyeshapes)
§ เวลากลางจะหยุดหรือเริ่มตามสัญญานนกหรีดผู้ตัดสิน
ยกเว้นเวลาทำโทษเวลาต้องหยุด
§ เมื่อลูกบอลออกนอกสนาม
เมื่อเริ่มเล่นใหม่กรรมการส่งลูกบอลตรงเส้นข้างของตำแหน่งผู้เล่น ซ้าย – ขวา ด้านใกล้ประตู
§ เมื่อลูกบอลออกเส้นข้าง
ผู้ตัดสินขาด “Out” และส่งลูกบอลเข้าสนามโดยผู้ตัดสินหรือผู้ตัดสินประตู
ที่เส้น 1.50 เมตร ด้านข้างที่ลูกบอลออกใกล้เสาประตู
และผู้ตัดสินขาน “Play”
§ ลูกบอลออกเส้นข้าง
และออกจากเส้น Line Out ผู้ตัดสินขาน Out-whistle-line
out และเริ่มใหม่โดย whistle-play กรรมการ 10
วินาที จับเวลาต่อไป (Restarted)
§ เมื่อผู้ตัดสินส่งบอลที่เส้น
1.50
เมตรแล้ว
ผู้ตัดสินเป่านกหวีดขาน Play แล้วผู้เล่น
ทีมที่ถูกส่งลูกบอลให้ต้องพยายามจับลูกบอลรีบเล่น เพราะเวลา 10 วินาทีกำลังจับอยู่
§ ไม่มีการช่วยเหลือจากการปรับตัวเข้ากับเส้นเขตผู้เล่นในช่วงเวลาการแข่งขัน
ถ้าไม่ปฏิบัติตาม (Team or Personal Penalty of game)
§ ผู้ตัดสินอาจจะช่วยเหลือในการปรับตัวของผู้เล่นได้ในช่วงเวลาการทำโทษเวลาอื่นห้ามปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติ
§ Dead Ball ลูกบอลถูกตัวผู้เล่น
ถูกเสาประตู
คานประตูและกระดอนกลับมาหยุดนิ่งในเขตผู้เล่น เขตลูกตก
เขตกลางสนามด้านฝ่ายรับบอล ผู้ตัดสินเป่า Whistle-Dead ball
§ ถ้าผู้เล่นต้องออกจากสนามแข่งขันเพื่อปฐมพยาบาล
หรือปรับแต่งอุปกรณ์ ผู้ตัดสินขานขอเวลานอก
และผู้เล่นอาจจะไม่กลับเข้ามาในสนามจนกระทั่งหมดเวลาครึ่งแรก
§ การทำความสะอาดพื้นควรพิจารณาโดยผู้ตัดสินหรือผู้ตัดสินประตู
เพื่อความปลอดภัยของผู้เล่น โดยเป่า Whistle - official time out
– wet floor or clean floor
![]() |
| ภาพส่วนหนึ่งในช่วงการเริ่มการแข่งขัน |
การได้คะแนน/ประตู
§ ลูกบอลเข้าประตูต้องผ่านเส้นประตู
§ ไม่ได้ประตูโดยผู้ตัดสิน/ผู้ตัดสินประตูผ่านบอลเข้าประตู
§ ถ้าฝ่ายรับ
รับบอลแล้ว Eye shapes หลุดกระเด็นออก
ผู้ตัดสินจะยังไม่เป่านกหวีดทันที จะปล่อยให้บอลเข้าประตู
โดยบอลผ่านเส้นประตูก่อนแล้วเป่านกหวีดเป็นประตู
§ ทีมที่ทำประตูได้มากสุดเป็นฝ่ายชนะ
§ Game
over ทีมใดทำประตูเหนือคู่ต่อสู้ 10 ประตู
กรรมการเป่า Whistle ขาน Game over
ทีมขอเวลานอก
§ ขอเวลานอกได้
3
ครั้ง ๆ ละ 45 วินาทีและสามารถใช้เวลานอกได้ทั้งสองทีม
§ สามารถขอเวลานอกได้อีก
1
ครั้ง ในช่วงต่อเวลาการแข่งขัน
§ ทีมที่มีสิทธิ์ขอเวลานอก
คือทีมที่ครองบอล ผู้ตัดสินเป่า Whistle-time out อีกทีมอาจขอเวลานอกต่อก็ได้
(ทีมที่ไม่ได้ขอครั้งแรก)
§ ขอเวลานอกโดยทีมส่งสัญญานหรือขานว่า
Time
out ทั้งสองอย่าง
§ การขอเวลานอกจะเริ่มขึ้นต่อเมื่อผู้ตัดสินขานชื่อทีมที่ขอเวลานอก
(Whistle–time
out–Thailand)
§ ผู้ตัดสิน
10
วินาที ควรกดเวลาเตือนก่อน 15 วินาที ก่อนหมดเวลานอก
§ เมื่อสัญญานดังผู้ตัดสินขาน
Fifteen
second
§ ทีมขอเวลานอกและส่งสัญญานขอเปลี่ยนตัวก่อนหมดเวลานอกถือว่าทีมนั้นขอทั้งเวลานอกและเปลี่ยนตัว
และทำโทษทีม (Team Penalty Delay of game)
§ การขอเวลานอกต่อได้นั้น
ทีมนั้นจะต้องโยนลูกไปฝั่งตรงข้ามแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง
จึงจะขอเวลานอกและขอเปลี่ยนตัวได้
§ ทีมขอเวลานอกเกิน
3
ครั้ง ในเวลาปกติและขอเวลานอกเกิน 1 ครั้ง
ในช่วงต่อเวลา (a team penalty-Delay of game)
§ เมื่อผู้ตัดสินขาน
Quiet
please ผู้ฝึกสอนต้องหยุดสอนทันที ถ้าไม่ปฏิบัติ(Team
Penalty-Illegal)
การเปลี่ยนตัวผู้เล่น
§ ขอเปลี่ยนตัวได้
3
ครั้ง ในเวลาปกติ
§ ขอเปลี่ยนตัวได้
1
ครั้ง ในเวลาปกติ
§ ผู้เล่นคนเดิม
สามารถเปลี่ยนตัวได้มากกว่า 1 ครั้ง
§ ทีมที่ครอบครองบอลสามารถขอเปลี่ยนตัวได้
และเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีด และขานว่า Substitutions ชื่อทีม อีกทีมหนึ่งอาจขอเปลี่ยนตัวได้
§ ทีมที่ขอเปลี่ยนตัวต้องแสดงสัญญาน
หรือส่งเสียงให้ผู้ตัดสินทราบ
§ การเปลี่ยนตัวจะเริ่มขึ้นเมื่อผู้ตัดสินประกาศการร้องขอจากทีม
§ ผู้ตัดสินเป่า
Whistle-Substitutions-Team-number-out-number
in ผู้ฝึกสอนโชว์ป้ายหมายเลขผู้เล่นที่ออกจากสนามและผู้เล่นที่เข้าไปใหม่ในสนาม
§ ในกรณีเปลี่ยนตัวแล้วผู้เล่นที่ทำการเปลี่ยนตัวไม่พร้อม
เช่นไม่ปิดตาให้เรียบร้อย Team Penalty-Delay of game
§ การขอเวลานอกก่อนหมดเวลาการเปลี่ยนตัว
ทีมจะต้องถูกนับทั้งการเปลี่ยนตัวและการขอเวลานอก
§ หลังจากทีมขอเปลี่ยนตัว
ต้องโยนบอลไปฝ่ายตรงข้ามก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง
จึงสามารถขอเปลี่ยนตัวและขเวลานอก ครั้งต่อไปได้
§ ผู้ตัดสินประตูเป็นนำผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวออกมายังเสาประตูที่ใกล้ที่นั่งพักสำรอง
และผู้เล่นต้องไม่สัมผัสผ้ปิดตาจนกว่าจะออกนอกสนามเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติ Team
Penalty Illegal Coaching
§ ในระหว่างการยิงลูกโทษ
สามารถเปลี่ยนตัวได้ ยกเว้นผู้เล่นที่ถูกทำโทษ
§ สามารถสอนได้ในช่วงเวลาเปลี่ยนตัวจนกระทั่งผู้ตัดสินขาน
Quiet
Please
§ ถ้าไม่ปฏิบัติ
Team
Penalty Illegal Coaching
§การเปลี่ยนตัวในระหว่างพักครึ่งเวลา(Half
time)ทีมต้องแจ้งผู้ตัดสินและผู้ตัดสินจะประกาศก่อนเริ่มการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง
ถ้าไม่ปฏิบัติ Team Penalty Delay of game
§ ทีมใดขอเปลี่ยนตัวเกิน
๓ ครั้งในช่วงเวลาปกติ ทีมใดขอเปลี่ยนตัวเกิน ๑ ครั้ง ในช่วงต่อเวลา A
team Penalty-Delay of game
การโยนลูกบอล
3
ครั้งติดต่อกัน
§ ผู้เล่นโยนบอลติดต่อกันเกิน
2
ครั้ง
§ ผู้เล่นที่โยนบอลติดต่อกันเกิน
2
ครั้ง จะถูกทำโทษ
§ นับการโยนและไม่นับประตู
§ การนับจะนับรวมจากครึ่งเวลาแรกต่อในครึ่งเวลาหลังด้วย(ในเวลาปกติ)
แต่ไม่นับรวมในช่วงต่อเวลา การโยนระหว่างการยิงลูกโทษจะบันทึกการโยนด้วย
§ การทำเข้าประตูตัวเองนับเป็นประตู
แต่ไม่นับเป็นการโยน
§ กรรมการโต๊ะแจ้งโทษให้ผู้ตัดสิน
เมื่อจบเกมส์การแข่งขันการต่อเวลา
§ ถ้าต้องการหาผู้ชนะในกรณีที่เสมอกันในเวลาปกติ
จะต่อเวลาออกไป 2 ครึ่ง ๆ ละ 3 นาที
§ พักก่อนแข่งต่อเวลา
3
นาที (ระหว่างเวลาปกติและช่วงต่อเวลา)
§ เสี่ยงกันใหม่
§ เมื่อหมดช่วงต่อเวลาครึ่งแรกให้เปลี่ยนข้างทันทีและมีเวลาพักระหว่างครึ่ง
3
นาที
§ ทีมใดทำประตูแรกได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะไป
(Golden
goal)







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น